บทเรียนวันนี้ “สูญเสียความไว้วางใจ”
#อิสยาห์ 30:1-5
เทศนาโดยอาจารย์อัษฎา พรสกุลคริสต์
#PrachanivateChurch💒
20/10/2019
บทเรียนวันนี้ “สูญเสียความไว้วางใจ”
#อิสยาห์ 30:1-5
เทศนาโดยอาจารย์อัษฎา พรสกุลคริสต์
#PrachanivateChurch💒
20/10/2019
“คนของพระเจ้า… จะดำเนินชีวิตในทุกเหตุการณ์ด้วยความหนักแน่น และความเชื่อมั่นเสมอ”
คำเทศนา : คนของพระเจ้า
วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2562
⭐️คนของพระเจ้า คือ..⭐️
1.คนที่มีพระเจ้าเป็นเจ้าของชีวิต
2.คนที่มีพระเจ้าทรงดูแลรักษา
3.คนที่มีความหวังในพระเจ้า
ขอพระเจ้าอวยพระพร
#Prachanivatechurch 💒
“พระพร..ที่ยิ่งใหญ่เหนือสิ
คำเทศนา : อ.อัษฎา พรสกุลคริสต์
วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562
⭐️ หัวข้อเทศนา : ขอเพียงมีพระองค์ ⭐️
พระวจนะ : มัทธิว 8:23-27
( https://www.bible.com/275/
1. ชีวิตมีพายุแม้มีพระเยซูคริ
2. แม้มีพระเยซูคริสต์ แต่ต้องรอเวลาของพระองค์ (V.24)
3. แม้มีพระเยซูคริสต์ แต่ต้องทำหน้าที่ส่วนของเรา
ขอพระเจ้าอวยพระพร
#Prachanivatechurch💒
คริสเตียนที่แข็งแกร่ง (ลก.6:46-49)
คริสเตียน 4 ประเภทที่เข้ามาหาพระเยซู (ลก.6:46-49)
1. มาเพื่อฟังคำสอน
2. มาเพื่อต้องการรักษาโรค
3. มาเพื่อต้องการหลุดพ้น
4. มาเพื่อต้องการฤทธิ์เดช
ชีวิตคริสเตียนที่แข็งแกร่ง
1. หยั่งรากลึกในพระวจนะ
1.1 มาหา
1.2 ฟังคำ
1.3 ทำตาม
2. วางเป้าหมายความเชื่ออย่างถูกต้อง
2.1 ขุดลึกลงไป ( ใช้เวลา, อดทน , พยายาม, มีเป้าหมาย)
2.2 การวางรากฐาน
– วางรากฐานไว้บนศิลา(พระเยซู) หรือวางรากฐานไว้บนดิน(ฤทธิ์เดช, การอัศจรรย์, การรักษาโรค)
3. ผ่านการทดสอบ (ท่าทีที่ตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆที่เข้ามาในชีวิต)
3.1 เหตุการณ์ทางธรรมชาติ
3.2 เหตุการณ์ตามฤดูกาล
3.3 เหตุการณ์ฉับพลัน
การรอคอยด้วยความหวัง (ฮาบากุ 2:1-3)
ลักษณะของผู้เชื่อที่รอคอยด้วยความหวัง
1. มีความอดทนนาน
– อดทนเฝ้าดูแผนการของพระเจ้า อย่าทำอะไรวู่วามก่อน
– ฟังเสียงของพระเจ้า
2. มีความเชื่อฟัง
– มีพระคำของพระเจ้าคอยเตือนย้ำว่าพระเจ้าอยู่ด้วย และพันธสัญญาของพระเจ้าเป็นจริงเสมอ
3. มีความเข้าใจในน้ำพระทัยของพระเจ้า
– น้ำพระทัยของพระเจ้าทำให้เราวางใจในพระเจ้า แม้บางครั้งอาจจะดูเจ็บปวด
– ฮาบากุมั่นใจและเชื่อว่า อีกหน่อยสิ่งที่แย่ๆจะผ่านไป พระเจ้ามีเวลาที่เหมาะสมรออยู่
*** การรอคอยเป็นขั้นตอนหนึ่งในแผนการของพระเจ้าเพื่อฝึกฝนให้เราอดทน
7 อย่างที่ช่วยแยกเสียงของพระเจ้าจากเสียงของโลก (ฟป.4:8)
1 ต้องฟังแล้วต้องพิสูจน์ว่าจริงตรงตามพระคัมภีร์มั้ย (ใช้พระคัมภีร์เป็นบรรทัดฐาน)
– ให้ศึกษาแต่ของจริง แล้วจะดูของปลอมเป็นเอง
– พระเจ้าบอกจงพูดหนุนใจกันและอย่าขาดการประชุม
2 สิ่งที่ได้รับมาต้องเป็นเหมือนพระเยซู
– ถ้าเป็นพระเยซูพระองค์จะทำแบบนั้นมั้ย
– เราจะรู้จักพระเยซูได้โดยการอ่านพระคัมภีร์
3 ปรึกษาผู้นำคริสจักรหากมีคนอ้างว่าเห็นนิมิตพระเจ้าแล้วให้เราทำตามคำแนะนำของเขา
– ต้องไว้ใจพี่น้องในการปรึกษาและตัดสินใจ อย่าตัดสินใจคิดเองทำเองหากสิ่งนั้นกระทบกับการใช้ชีวิตเรา
4 อย่าเลียนแบบคนอื่นทั้งหมด ดูว่าสิ่งนั้นเหมาะกับเราหรือไม่
– เลียนแบบคนอื่นทุกอย่าง อาจจะไม่เกิดผลเท่าที่ควร
– เพราะเราถูกสร้างมาแตกต่างกันทำหน้าที่แตกต่างกัน
5 ดูว่าสิ่งนั้นเป็นความรับผิดชอบของเราหรือเราไปยุ่งเรื่องของเขา
-อย่าไปตัดสินคนอื่น
6 สิ่งที่ได้รับมาเสริมสร้างกันและกันหรือเปล่า หรือมีแต่คำตำหนิไม่มีคำหนุนชูใจ
-ถ้าเป็นเสียงของพระเจ้าจะมีคำหนุนชูใจกัน
7 ฟังแล้วมีสันติสุขหรือเปล่า มีความหวังหรือเปล่า
– อย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใด ฟป4:4
ชีวิตที่ได้รับการเปลี่ยนทุกวัน(การชำระให้บริสุทธิ์ของพระเจ้า)
4 คำไข ความรับผิดชอบส่วนตัวของผู้เชื่อกับงานแห่งการชำระให้บริสุทธิ์ของพระเจ้า
รู้ ===> ถือว่า ===> ถวาย ==> เชื่อฟัง
“รู้”
โรม 6:3 ท่านไม่รู้หรือว่า เราทั้งหลายที่ได้รับบัพติศมาเข้าในพระเยซูคริสต์ ก็ได้รับบัพติศมานั้นเข้าในความตายของพระองค์
โรม 6: 6 เราทั้งหลายรู้แล้วว่า ตัวเก่าของเรานั้นได้ถูกตรึงไว้กับพระองค์แล้ว เพื่อตัวที่บาปนั้นจะถูกทำลายให้สิ้นไป และเราจะไม่เป็นทาสของบาปอีกต่อไป
โรม 6:9 เราทั้งหลายรู้อยู่ว่า พระคริสต์ที่ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากตายนั้นแล้วจะหาตายอีกไม่ ความตายหาครอบงำพระองค์ต่อไปไม่
เมื่อเรารับเชื่อและบังเกิดใหม่แล้ว เราไม่ใช่คนบาป อีกต่อไป แต่เหตุที่เรายังทำบาปเพราะว่าเรายังไม่สมบูรณ์
“อย่าพูดว่าเราเป็นคนบาป” เพราะจะเป็นช่องว่างให้กับซานตานเข้ามามีส่วนทำลายชีวิตเรา
“ถือว่า”
โรม 6:11 เหมือนกันเช่นนั้นแหละ ท่านทั้งหลายจงถือว่าท่านได้ตายต่อบาป และมีชีวิตสนิทกับพระเจ้าในพระเยซูคริสต์
เราไม่ใช่คนชอบธรรมเพราะเรายังทำบาปอยู่ แต่ พระเจ้า”ถือว่า”เราเป็นคนชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้า
“ถวายตัว”
โรม 6:12-13 หตุฉะนั้นอย่าให้บาปครอบงำกายที่ต้องตายของท่าน ซึ่งทำให้ต้องเชื่อฟังตัณหาของกายนั้น 13อย่ายกอวัยวะของท่านให้แก่บาป ให้เป็นเครื่องใช้ในการอธรรม แต่จงถวายตัวของท่านแด่พระเจ้า เหมือนหนึ่งคนที่เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และจงให้อวัยวะเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรมถวายแด่พระเจ้า
ฟิลิปปี 2:5-7 ท่านจงมีน้ำใจต่อกันเหมือนอย่างที่มีในพระเยซูคริสต์ 6ผู้ทรงสภาพของพระเจ้า แต่มิได้ทรงถือว่าการเท่าเทียมกับพระเจ้านั้นเป็นสิ่งที่จะต้องยึดถือ 7แต่ได้กลับทรงสละ และทรงรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์
พระคัมภีร์ บอกให้เราถวายตัวก่อน การเชื่อฟัง
การถวายตัวเป็นการมอบชีวิตของเราให้กับพระเจ้าแล้วยอมให้พระเจ้าตัดสินใจและทรงนำ ยอมให้พระเจ้าใช้งานอย่ายึดถือตัว ยอมสละ พระเจ้าจะใช้ยังไงก็แล้วแต่น้ำพระทัยของพระองค์ มอบตัวเองให้พระเจ้านำตลอดเวลา และขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี
“เชื่อฟัง”
โรม 6:16 ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่า ถ้าท่านยอมตัวรับใช้ฟังคำของผู้ใด ท่านก็เป็นทาสของผู้ที่ท่านเชื่อฟังนั้น คือเป็นทาสของบาปซึ่งนำไปสู่ความตาย หรือเป็นทาสของการเชื่อฟังซึ่งนำไปสู่ความชอบธรรมก็ตาม 17แต่จงขอบพระคุณพระเจ้า เพราะว่าเมื่อก่อนนั้นท่านเป็นทาสของบาป แต่บัดนี้ท่านมีใจเชื่อฟังหลักคำสอนนั้นซึ่งทรงให้ครอบครองท่าน
ถ้าความเชื่อไม่มีการกระทำไม่ได้เรียกว่าเชื่อฟัง
เช่นตอนที่พระเยซูให้ทาสไปตักน้ำใส่ตุ่มแล้วตักน้ำไปให้กับเจ้าภาพและแขกในงานเลี้ยง น้ำกลับกลายเป็นน้ำองุ่นชั้นดี
ทาสทำตามอย่างไม่มีข้อสงสัยและมีเงื่อนไข
พระเจ้าจะให้เราทำในสิ่งที่เกินกำลังของตนเอง
ประเด็นท้าทาย
1. ปัญหาภายนอกคริสตจักร
2. ปัญหาภายในคริสตจักร
3. ปัญหาของตนเอง
1>. ใจที่อดทน (ข้อ 7-11)
ตัวอย่าง
1.1 ชาวนาเพียรคอยจนกระทั่งมีฤดูฝนและฝนตกชุกปลายฤดู
1.2 ผู้เผยพระวจนะ ผู้ได้กล่าวความในพระนามองค์พระผู้เป็นเจ้า
1.3 โยบ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเปี่ยมไปด้วยพระเมตตากรุณาสักเท่าใด
เพราะเหตุใดพระเจ้าทรงให้อดทน
– เพื่อความยินดีจะเพิ่มในชีวิต
– ยอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานในชีวิตของเรา
– เป็นวิธีหนึ่งที่เอาชนะเนื้อหนังได้
– พิสูจน์ว่าเราเป็นคนที่พระเจ้าใช้ได้
2>. ใจที่อธิษฐาน(ข้อ13)
มีผู้ใดในพวกท่านทนทุกข์หรือ จงให้ผู้นั้นอธิษฐาน มีผู้ใดร่าเริงยินดีหรือ จงให้ผู้นั้นร้องเพลงสรรเสริญ
– เพราะเหตุใดคริสเตียนจำนวนมากจึงล้มเหลว? สาเหตุหนึ่งคืออธิษฐานน้อยเกินไป
– เพราะเหตุใดผู้นำคริสตจักรจึงหมดกำลังใจและท้อถอยในการทำงาน? สาเหตุหนึ่งคืออธิษฐานน้อยเกินไป
– ทำไมคริสตจักรจึงไม่เติบโต? สาเหตุหนึ่งคืออธิษฐานน้อยเกินไป
ฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
ความเชื่อ + การอธิษฐาน
3 พลังที่ขับเคลื่อนชีวิต
1. พลังแห่งความเชื่อ
2. พลังแห่งความหวัง
3. พลังแห่งความรัก
3>. ใจที่สารภาพ (ข้อ16)
เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจงสารภาพบาปต่อกันและกัน และจงอธิษฐานเพื่อกันและกัน เพื่อท่านทั้งหลายจะพ้นโรคภัย คำอธิษฐานของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังทำให้เกิดผล
ต้องสารภาพบาปก่อนแล้วการอธิษฐานนั้นจะมีพลังทำให้เกิดผล หากอธิษฐานด้วยใจที่ไม่สารภาพจะไม่เกิดผล
ทำไมพระเจ้าจึงสร้างวันนี้เพื่อเรา? และให้เรายินดีเปรมปรีด์ในวันนี้?
เหตุที่พระเจ้าตั้งวันนี้เพื่อเรา
1.พระองค์ทรงรักเรา(สดด.118:1-4, 1ยน4:16)
2.พระองค์ทรงสร้างไว้เพื่อเรา(ปฐก.1:26,28และ2:19,สดด.115:16)
3.พระองค์ประสงค์ให้เรา
-เดินตามพระองค์(สดด.118:27,มธ.4:19, 19:21, ลก.1:79)
-มีความสุขสันติ (อสค.34:25, ลก.1:79,2:14, ยน.14:27)
-มีความปลอดภัย(สดด.115:9-11)
-มีชัยชนะ(ฉธบ.20:4,1คร.15:57, 1ยน.5:4)
-ไม่ต้องวิตกกังวลและไม่ต้องกลัว(ยน.14:27)